สร้างสรรค์เส้นทางไมซ์นี้ โดย สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น

ขอใบเสนอราคา

ขอนแก่น : Field Trip ต้องมนต์เสน่ห์เส้นทางไหม

7 ม.ค. 2565


อุตสาหกรรมผ้าไหม และผ้าทอมือของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถือเป็นอัตลักษณ์ และการเชื่อมโยงวิถีชีวิตของชาวอีสานที่สามารถสร้างรายได้ และสร้างชื่อเสียงให้แก่ชุมชนในภูมิภาค ถ่ายทอดวัฒนธรรม และภูมิปัญญาผ่านเส้นใยไหมจนเป็นผืนผ้าชิ้นงาม ผสานศาสตร์ และศิลป์ให้เกิดลวดลายที่สร้างความแปลกใหม่ในวงการแฟชั่นมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่นที่ได้รับการรับรองจากสภาหัตถกรรมโลกให้เป็นเมืองหัตถกรรมโลก แห่งผ้ามัดหมี่ (WCC-Word Craft City for Ikat (Mudmee) 

handicraft

ล่าสุดจากโครงการ “10 เส้นทางไมซ์สร้างสรรค์” ของ Thai MICE Connect  สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น ได้ออกแบบเส้นทางไมซ์ ขอนแก่น : Field Trip ต้องมนต์เสน่ห์เส้นทางไหม ที่จะนำพาองค์กรไปศึกษาดูงานการทอผ้าไหม งานหัตถศิลป์สำคัญของเมืองมัดหมี่โลกแห่งนี้ ซึ่งถือเป็นมรดกภูมิปัญญาถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นเป็นเวลากว่าร้อยปี มนต์เสน่ห์ของวิถีชีวิตของชุมชนต่าง ๆ จะทำให้ทุกคนต้องทึ่งกับความสามารถของชาวบ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่ ที่ยังคงใช้เวลาอยู่กับกี่ทอผ้าโบราณ ได้เรียนรู้อุตสาหกรรมผ้าไหมขนาดย่อมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ หรือแม้แต่การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมแบบที่เคยได้ยินกันมาว่าจะหน้าตาเป็นอย่างไร?  พลาดไม่ได้เลยกับการตามรอยเส้นทางผ้าไหมและผ้ามัดหมี่ในจังหวัดขอนแก่น

ทริปนี้เริ่มต้นเดินทางจากตัวเมืองขอนแก่นไปยัง บ้านหัวฝาย อ.ชนบท หมู่บ้านที่มีวิถีชีวิตชุมชนเรียบง่าย ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เมื่อว่างเว้นจากการทำนา ก็จะรวมตัวกันผลิตผ้าไหมเพื่อจำหน่าย และจากการร่วมแรงร่วมใจกันของคนในชุมชน ทำให้หมู่บ้านได้รับรางวัลในระดับจังหวัดและระดับประเทศมากมาย ได้แก่ หมู่บ้านชนะเลิศการประกวดผ้าไหมระดับประเทศ หมู่บ้านท่องเที่ยวชุมชนโอทอปนวัตวิถี หมู่บ้านตัวแทนจังหวัดขอนแก่นในการรับการตรวจประเมิน “เมืองหัตถกรรมโลกแห่งผ้ามัดหมี่”  และหมู่บ้านต้อนรับการประชุมท่องเที่ยวโลก เมื่อปี 2559

หลังจากรับประทานอาหารว่างและ Welcome Drink น้ำลูกหม่อนและชาใบหม่อน เมื่อมาถึงเรียบร้อยแล้ว จะได้ชมการผลิต การค้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไหม ผ้ามัดหมี่ ก่อนที่จะเดินทางไป ศาลาไหมไทย หรือ "อาคารเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา มหาราชินี" ภายในจัดแสดงกรรมวิธีการผลิตตั้งแต่มัดย้อมจนถึงวิธีการทอ อุปกรณ์เครื่องใช้เกี่ยวกับไหมและของเก่าแก่ รวมถึงผ้าไหมมัดหมี่โบราณ พร้อมผ้าไหมมัดหมี่ที่ชนะการประกวดต่าง ๆ ตลอดจนการทำผ้าไหมนาโน จากนั้นร่วมรับประทานอาหารพื้นถิ่นที่เป็นผลผลิตจากการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เช่น ดักแด้ทอด ลาบดักแด้ รวมถึงอาหารที่ใช้ชาใบหม่อนเป็นวัตถุดิบหลัก เป็นต้น แล้วไปเดินย่อยกันที่ ถนนสายไหม เพื่อให้ทุกท่านเลือกซื้อ ผ้าไหม สินค้าคุณภาพ ลวดลายสีสันงดงามมาตรฐาน ตรานกยูงพระราชทาน

silkroad

จุดหมายต่อไป คือ  บ้านหนองบัวน้อย ต. โสกนกเต็น อ. พล ซึ่งอนุรักษ์และดำรงวิถีชีวิตดั้งเดิมชาวอีสานกว่า 100 ปี มีการสืบสานการทอผ้าไหมจากบรรพบุรุษ และสืบทอดต่อไปยังรุ่นสู่รุ่น บ้านไม้ และ “กี่” ทอผ้าเก่าแก่ยังคงอยู่คู่กับหมู่บ้านแห่งนี้ ที่นี่มีกระบวนการผลิตผ้าไหมตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เริ่มตั้งแต่การปลูกหม่อน เลี้ยงหนอนไหม สาวไหม กวักไหม ไปจนกระทั่งทอผ้าไหมเป็นผืน 
 
weavingprocess

และที่แห่งนี้คณะนักเดินทางจะได้ร่วมทำ “กิจกรรม CSR ปลูกต้นหม่อนในแปลงปลูกของชุมชน” เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งอาหารให้หนอนไหม พร้อมร่วมกิจกรรม Workshop ทำผ้าเช็ดหน้ามัดย้อมลายไดโนเสาร์ ด้วยฝีมือของตัวเองพร้อมนำกลับมาเป็นของที่ระลึก 

csr_plantingmulberry


จากนั้นเดินทางกลับที่พัก ณ โรงแรมราชาวดี รีสอร์ต แอนด์ โฮเต็ล ซึ่งครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการประชุมและเข้าพัก โดยได้รับการรับรองมาตรฐาน Thailand MICE Standard รับประทานอาหารพื้นถิ่นอีสาน และอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดขอนแก่น เช่น ไก่ย่างเขาสวนกวาง ไข่มดแดง และอื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งระหว่างการรับประทานเย็นนี้เองจะมีกิจกรรมการ รำบายศรีสู่ขวัญคู่เสี่ยว ซึ่งถือเป็นประเพณีเก่าแก่และสำคัญของชาวอีสาน เชิญชวนให้ผู้ที่ทำธุรกิจร่วมกัน หรือ Business Matching กันแล้วมาผูกเสี่ยวกัน ชมความงดงามอ่อนช้อยของนางรำ พร้อมนำด้ายสายสิญจน์ในพิธีไปผูกแขนให้ผู้ชมเป็นการร่วมกิจกรรมปิดท้าย

baisri

ทริปนี้จัดโดย สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น ทำหน้าที่โดยตรงในการให้คำแนะนำ คำปรึกษาด้านสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ที่ประชุมในจังหวัดขอนแก่น โดยรับจำนวนจำกัดทริปละ 30 ท่าน ในราคาท่านละ 2,990 บาท (ไม่รวมค่าที่พักและค่าเครื่องบินไป-กลับ) ในระยะเวลา  2 วัน 1 คืน

สำหรับการต้อนรับสมาชิกผู้เข้าร่วมจะอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันโรคระบาด (COVID-19) ตรวจวัดอุณหภูมิ เจล แอลกอฮอล์ล้างมือ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย โดยพนักงานต้อนรับจะสวมใส่ชุดผ้าไหมพื้นถิ่นสวยงามรอต้อนรับ พร้อมจัดการรับกระเป๋าสัมภาระผู้เข้าร่วมทริป รวมถึงจัดส่งเข้าโรงแรมที่พัก ตลอดจนมอบของที่ระลึกต้อนรับเป็นผ้าขาวม้า 1 ผืนต่อผู้เข้าร่วมฯ 1 คน โดยการเดินทางตลอดกิจกรรมจะใช้รถตู้เป็นยานพาหนะ

**สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของกิจกรรมหรือที่พักได้ตามความต้องการขององค์กร**

247160