ย้อนกลับ

7 แอปที่ช่วยให้ธุรกิจไมซ์ Work from Home ได้ง่ายขึ้น

23 เม.ย. 2564

หลายองค์กรจำเป็นต้องเริ่มทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) เพื่อลดการรวมตัว ป้องกันการแพร่ระบาดและช่วยกันพาประเทศของเราผ่านวิกฤตครั้งนี้ นับเป็นโจทย์ท้าทายของวงการไมซ์ไทยที่จะต้องประคองธุรกิจ รักษาฐานลูกค้า แยกย้ายทำงานที่บ้านชั่วคราวเพื่อให้เราพร้อมที่สุดในวันที่โอกาสกลับมา มาดูกันว่ามีแอปพลิเคชัน (Application) Work from Home ใดบ้างที่ไมซ์ไทยต้องรู้จัก บางทีแอปเหล่านี้อาจช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นเสมือนเราไปทำงานตามปกติก็ได้
 

Slack: สื่อสารภายในทีม
Slack คือแอปพลิชันสื่อสารภายในองค์กรหรือภายในทีม ที่สามารถแชร์ข้อความ ภาพ รวมถึงไฟล์งานรูปแบบต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ แบบลากมาวาง (Drag and Drop) จุดเด่นของ Slack คือผู้ใช้สามารถสร้างช่องทาง (Channel) สำหรับสื่อสารแยกตามทีม หรือแบ่งตามโครงการก็ได้ รวมถึงการติดตามงานในโปรเจคต่าง ๆ ได้อีกด้วย ทำให้การคุยเรื่องงานไม่สับสน อยากตามงานโครงการไหนก็คุยกันใน Channel นั้นได้เลย

เหมาะกับใคร: ทุกองค์กรทั้งขนาดเล็กและใหญ่
ค่าใช้จ่าย: มีทั้งแบบฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และแบบ Standard ขึ้นไป เริ่มต้นที่ 6.67 USD ต่อเดือน
ข้อมูลเพิ่มเติม:  https://slack.com/intl/en-th/

1585576910img-hero-remote

Microsoft Teams: สื่อสารระดับองค์กร เชื่อมต่อกับ Microsoft office
แอปจากฝั่ง Microsoft ที่เปิดให้ใช้บริการได้ฟรี  แถมบริษัทไหนที่ใช้ Office 365 อยู่แล้วก็สามารถเข้าใช้เวอร์ชันเต็มที่มีฟังก์ชันได้เลย จุดเด่นของ Microsoft Team คือการเชื่อมต่อกับโปรแกรม Microsoft Office อย่าง Word หรือ Powerpoint ได้ง่ายดาย ผู้ใช้งานสามารถแก้ไขไฟล์เหล่านี้พร้อมกันแบบออนไลน์ได้มากถึง 100 คน ประชุมวีดีโอออนไลน์ได้มากถึง 250 คน  รวมถึงบันทึกและอัพโหลดการประชุมย้อนหลังได้อีกด้วย
เหมาะกับใคร: องค์กรที่ใช้Office 365 อยู่แล้ว และทำงานในโปรแกรม Microsoft เป็นหลัก
ค่าใช้จ่ายมีทั้งแบบฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และแบบ Business Essentials ขึ้นไปเริ่มต้นที่ 2.50USD ต่อเดือน
ข้อมูลเพิ่มเติม
https://products.office.com/th-th/microsoft-teams/group-chat-software

1585577083teams-one-year-yoas



Zoom: ประชุมออนไลน์ แบบแชร์หน้าจอร่วมกันได้
Zoom ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลในช่วงวิกฤตโควิด-19 มีผู้ใช้เพิ่มมากขึ้นถึง 828% ตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงกลางเดือนมีนาคมนี้ (ข้อมูลจาก Dtac เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563) แอปนี้เหมาะสำหรับการประชุม อบรม และสัมมนา โดยผู้เข้าร่วมสามารถแชร์หน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อชมสไลด์นำเสนอร่วมกันได้ มีระบบให้ผู้เข้าร่วมพูดคุย (Chat) โต้ตอบกันระหว่างประชุม สามารถเลือกแชทเป็นกลุ่ม หรือแชทแบบส่วนตัวก็ได้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน Zoom Webinar ที่รองรับการจัดสัมมนาที่มีผู้เข้าร่วมสูงสุดได้ถึง 10,000คน

1585577277monitor-moderncomm_



Workplace by Facebook: สื่อสารในองค์กร บนแพลตฟอร์มที่คุ้นเคย
แอปทำงานจากฝั่ง Facebook ที่เปิดตัวในปี 2015 และยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จุดเด่นของ Workplace คือการใช้รูปแบบของ Facebook ที่คนทั่วโลกคุ้นเคยปรับมาสู่โลกของการทำงาน สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องมือทำงานอื่น ๆ ได้สะดวก ทั้ง G Suite ของ Google, Office 365 และ Dropbox นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันช่วยให้ติดตามงานได้ง่ายขึ้นเช่น News feed อัพเดตงานขององค์กรที่ควบคุมด้วย AI อัจฉริยะแบบเดียวกับใน Facebook มีระบบแปลภาษาอัตโนมัติมากถึง 46 ภาษาและมีฟังก์ชันแผนผังองค์กรที่ช่วยให้เราติดต่อกันข้ามสายงานได้แค่ปลายนิ้วคลิก
เหมาะกับใคร:  ทุกองค์กรทั้งขนาดเล็กและใหญ่
ค่าใช้จ่าย: มีทั้งแบบฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และแบบAdvancedขึ้นไปเริ่มต้นที่ 4USD ต่อเดือน
ข้อมูลเพิ่มเติม:  https://www.workplace.com/

158557802158817070_2828380259


Asana: บริหารจัดการโครงการผ่านแอป

แอปที่ช่วยให้คุณจัดการโครงการต่าง ๆ ขององค์กรได้ง่ายขึ้น ก่อตั้งโดยหนึ่งในอดีตทีมผู้ก่อตั้ง Facebook  จุดเด่นของ Asana คือ ผู้ใช้สามารถสร้าง Task (โครงการ) ของคุณ เพื่อมอบหมายให้เพื่อนในทีมได้รับทราบ สามารถลงรายละเอียดงาน แชร์ไฟล์ต่าง ๆ ได้ในที่เดียว  นอกจากนี้ยังมี Task Activity Feed ที่ช่วยบันทึกการทำงานทั้งหมด โดยทุก Task จะแสดงบนปฏิทินงานของทั้งทีม เพื่อให้ช่วยแจ้งเตือนกำหนดส่ง ให้ทุกงานไม่หลุดจากแผนเวลาที่วางไว้
เหมาะกับใคร:  ทุกองค์กรทั้งขนาดเล็กและใหญ่
ค่าใช้จ่าย: 
มีทั้งแบบฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และแบบ Premium ขึ้นไปเริ่มต้นที่ 10.99USD ต่อเดือน
ข้อมูลเพิ่มเติม:  
https://asana.com/?noredirect

158557818536f50a

Hootsuite: บริหารจัดการทุกโซเชียลมีเดียในแอปเดียว
แอปที่ช่วยให้คุณบริหารจัดการสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) หลายช่องทางพร้อมกันได้ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Instagram, Blogger, WordPress โดยผู้ใช้สามารถโพสต์พร้อมกัน ตั้งเวลาโพสต์และตอบคำถามลูกค้าในทุกช่องทางบนหน้าจอเดียวได้ ช่วยให้เราติดตามความคิดเห็นของลูกค้า รับมือและแก้ไขสถานการณ์ได้ทันเวลา รักษาความสัมพันธ์ลูกค้าได้อย่างดีแม้จะต้องทำงานจากที่บ้านก็ตาม
เหมาะกับใคร:  องค์กรที่เน้นทำการตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์
ค่าใช้จ่าย:
 ราคาแบ่งตามขนาดองค์กร มีทั้งแบบส่วนบุคคลและธุรกิจขนาดใหญ่
ข้อมูลเพิ่มเติม
:  https://hootsuite.com/

1585578425content-calendar

Calamari: ลางานผ่านระบบออนไลน์
แอปลางานแบบออนไลน์ (Leave Management System) ที่ผู้ใช้สามารถแจ้งลาและแชร์ไฟล์เอกสารสำคัญ เช่น ใบรับรองแพทย์แบบออนไลน์ได้เลย แอปนี้จะช่วยให้ฝ่าย HR สามารถคำนวณวันหยุดงานของทั้งองค์กรได้แบบอัตโนมัติ เชื่อมต่อไปยังแอปปฏิทินของทุกคนในองค์กร เช่น G Suite Calendar, Outlook ช่วยให้ทีมงานเข้ามาเช็ควันลาของตัวเองได้ง่ายดายโดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศ

เหมาะกับใคร: สตาร์ทอัพ (Startup) หรือองค์กรที่ยืดหยุ่นเรื่องสถานที่และเวลาทำงาน
ค่าใช้จ่าย
ราคาขึ้นอยู่กับจำนวนพนักงานในองค์กร
ข้อมูลเพิ่มเติม
:  
https://calamari.io/


1585578559multinational-min

วิกฤตโควิด-19 เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า “เทคโนโลยีดิจิทัล” จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ (New Practice) ของโลกการทำงานระยะไกล (Remote Working) และการย้ายระบบไปสู่โลกออนไลน์ คือบทเรียนใหม่ที่ทุกธุรกิจต้องก้าวให้ทัน นี่จึงเป็นโอกาสของไมซ์ไทยที่จะเรียนรู้และทดลองนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ไม่ใช่เพียงแก้ปัญหาในวิกฤตนี้เท่านั้น แต่ดิจิทัลจะยกระดับประสิทธิภาพการทำงานและเป็นช่องทางสร้างความผูกพัน (Engagement) กับนักเดินทางธุรกิจจากทั่วโลก ต่อยอดความสำเร็จต่อไปในอนาคต