สมัครสมาชิกก่อนขอใบเสนอราคาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย >> bit.ly/3As8dlS
คลิกขอใบเสนอราคาได้ที่นี่ >> bit.ly/3A8zWaV
“ภูเก็ต” ได้รับขนานนามว่าเป็น ‘ไข่มุกแห่งอันดามัน’ นอกจากจะเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเต็มไปด้วยสถานที่ที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ และเรื่องราวทางวัฒนธรรมที่ถูกสั่งสมตั้งแต่อดีต ที่ยังสะท้อนออกมาให้เห็นในปัจจุบันผ่านวิถีชีวิตดั้งเดิม และความสวยงามทางวัฒนธรรมที่แฝงไว้ในสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสในย่านเมืองเก่า ที่นี่จึงเป็นอีก 1 ในเส้นทางไมซ์สร้างสรรค์ที่อยากนำเสนอเสน่ห์ความเป็นเพอรานากันกับเส้นทาง “ภูเก็ต : สัมมนาท่องวิถีโอลด์ทาวน์ ชมวิถีชาวเพอรานากัน” ในโปรแกรม 2 วัน 1 คืน ที่นอกจากองค์กรจะได้บุคลากรมาสัมมนาในเมืองเก่าทรงคุณค่า พร้อมกับซึมซับวัฒนธรรมเก่าแก่ สัมผัสเสน่ห์ความเป็นเพอรานากัน ยังได้ผ่อนคลายไปกับหาดทราย สายลมแสงแดด และเกลียวคลื่น รวมถึงการทำกิจกรรม Workshop ที่คณะเดินทางจะได้ทั้งความอิ่มอร่อยและยังได้เรียนรู้เรื่องราวที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ตลอดจนสภาพแวดล้อมของหนุ่มสาวชาวเกาะภูเก็ตที่มีการถ่ายทอดสืบต่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
จากสนามบินภูเก็ตมุ่งหน้าสู่ที่พักเพื่อเก็บสัมภาระและพักผ่อนเล็กน้อย ก่อนเริ่มการเดินทางด้วยการให้คณะเดินทางแต่งกายชุดบาบ๋าย่าหยา เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเดินทางวันแรก เมื่อชุดพร้อมแล้วกิจกรรมแรกที่จะทำคือการ Workshop ผัดหมี่ฮกเกี้ยน อาหารพื้นถิ่นต้นตำรับภูเก็ต และขนมเต่าอังกู๊ ซึ่งก็คือขนมมงคลที่สื่อความหมายถึงการมีอายุยืนยาวเช่นเต่า และรับประทานอาหารกลางวันจากการ Workshop ด้วยฝีมือตัวเอง
จากนั้นเดินทางไปยัง Woo Gallery & Boutique Hotel โดยเจ้าของบ้านเป็นวิทยากรพิเศษเพื่อบอกเรื่องราวต่าง ๆ และสถาปัตยกรรมชิโนโปตุกีสก็จะได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ณ ที่แห่งนี้ และเดินทางต่อไปที่โรงตีเหล็กไต่สุ้นอั้น เพื่อชมการสาธิตวิธีตีเหล็กด้วยมือ โดยที่นี่เป็นโรงตีเหล็กแห่งสุดท้ายของภูเก็ตอีกด้วย ต่อด้วยกิจกรรมในช่วงบ่ายที่บ้านขุนนิเทศจีนารักษ์ (i46 Old Town) เพื่อเยี่ยมชมความสวยงามบ้านเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 80 ปี พร้อมกับชิมขนมพื้นเมืองทั้งแบบแห้งและแบบสดที่เสิร์ฟมาในถาดบราณ ที่เคล้ากับเสียงกู่เจิ้งบรรเลง โดยคุณแอนนี่ เจ้าของฉายา “นางฟ้ากู่เจิ้ง” เมื่ออิ่มท้องและอิ่มเอมกับการแสดงอันไพเราะ
แล้วก็ถึงไฮไลต์สำคัญของเกาะภูเก็ตคือการเที่ยวชมและเก็บภาพเป็นที่ระลึกกันที่อาคารเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 150 ปี ด้วยสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีส บริเวณถนนถลาง ซึ่งการชุดพื้นเมืองบาบ๋าย่าหยาแล้วยิ่งทำให้ไม่ว่าจะเก็บภาพที่มุมไหนก็สวยไปทุกมุม และปิดท้ายด้วยรับประทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารตู้กับข้าว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอาคารที่ถ่ายภาพ
สำหรับโปรแกรมวันที่สอง หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว ก็จะเริ่มต้นการเดินทางไปสัมผัสวิถีชีวิตที่ชุมชนประมงบ้านบางโรง พร้อมการต้อนรับด้วยการเสิร์ฟน้ำสมุนไพรและขนมพื้นเมือง ก่อนจะเริ่มการ Workshop ที่ได้การต้อนรับที่ดีมากคือการเพนต์กระเป๋าบาบ๋าย่าหยา คณะเดินทางจะได้ลงมือออกแบบลวดลายที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับของตัวเองและได้กระเป๋านั้นเป็นของที่ระลึกไปด้วย
แล้วพาชมกรรมวิธีตั้งแต่การปลูก การตัด การปอกสับปะรดภูเก็ตหรือที่ชาวบ้านท้องถิ่นเรียกว่า “ยานัด” เป็นผลไม้ประจำภูเก็ตที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และกิจกรรมการย่างสับปะรดด้วยเตาถ่าน ต่อด้วยการไปชมสวนยางพารา ชมสาธิตการกรีดยางพาราและลงมือกรีดยางพาราด้วยตนเอง
จากนั้นไปทำกิจกรรม CSR ที่ธนาคารปู ปล่อยปูม้าไข่นอกเพื่อเพิ่มปริมาณปูม้าในทะเล แวะรับประทานอาหารกลางวันที่แพลอยน้ำ ปิดท้ายด้วยกิจกรรม Workshop ที่สวนมะพร้าว ทำขนมโคและขนมครกตำรับดั้งเดิมของภูเก็ตเพื่อสร้างประสบการณ์อาหารพื้นถิ่นตาม 7 MICE Magnificient Theme พร้อมด้วยซุ้มกาแฟสดที่สามารถดื่มคู่กับขนมที่ทำได้ ก่อนจะแวะซื้อของฝากและของที่ระลึกร้านคุณแม่จู้
เส้นทางที่จะทำให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของวัฒนธรรมที่แฝงไปด้วยภูมิปัญญาและจังหวัดที่มีอารยธรรมเก่าแก่ ที่สามารถส่งต่อเสน่ห์ความเป็นเพอรานากันที่มีคุณค่าและเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันงดงามมาถึงปัจจุบันให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ อย่าลืมพาเหล่าพนักงานมาพิสูจน์ว่า “ภูเก็ต เด็ดทั้งเกาะ” อย่างที่เขากล่าวขานกันหรือไม่ สร้างสรรค์เส้นทางโดยทีมงานที่เชี่ยวชาญด้านงานบริการมากว่า 20 ปี บริษัท ที แอนด์ เอ ไอเดียพลัส จำกัด (Siamtogo) จำกัด และการันตีด้วยการได้รับเครื่องหมายรับรองคุณภาพด้านสุขอนามัยตามมาตรฐาน SHA Plus โดยรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 30 ท่าน ในราคาท่านละ 5,500 บาท โดยราคานี้รวมกับค่ารถตู้ปรับอากาศ ค่าอาหาร 3 มื้อ ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ค่ากิจกรรมต่าง ๆ ค่าประกันอุบัติเหตุ พร้อมค่าที่พักและอาหารเช้าสำหรับห้องพักคู่ (2 ท่านต่อ 1 ห้อง) ที่ The SIS Kata Phuket รีสอร์ตหรูระดับ 4.5 มาตรฐาน SHA Plus+
สามารถขอสิทธิ์รับเงินสนับสนุนการจัดกิจกรรมมูลค่า 15,000 และ 30,000 บาท จาก "โครงการประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า 2564" ได้ที่ bit.ly/3a9CNGc ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2564
สมัครสมาชิกก่อนขอใบเสนอราคาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย >> bit.ly/3As8dlS
คลิกขอใบเสนอราคาได้ที่นี่ >> bit.ly/3A8zWaV
**สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของกิจกรรมหรือที่พักได้ตามความต้องการขององค์กร**